วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การบริหารงานบุคคล ประจำศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
1. อธิบายภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญๆ ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง

               บทบาทหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ส่วนใหญ่มีหน้าที่ในการจัดหา จัดสร้างดำเนินงาน  บริการด้านสื่อการเรียนการสอน ข้อสนเทศความรู้วิทยากร และนวัตกรรมต่างๆ อันเป็นผลผลิตของเทคโนโลยีทางการศึกษาสมัยใหม่ โดยจะต้องรวบรวมจัดหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการค้นหา จัดให้บริการยืม
อีกทั้งจะต้องบำรุงรักษาซ่อมแวมวัสดุการศึกษาดังกล่าวให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมต่อการใช้สอยได้ตลอกเวลา ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่เข้าใจ หรือผู้ให้บริการมีข้อปัญหาซักถามในด้านความรู้ ข้อสนเทศหรือปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาหารือเพื่อสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมความรู้ให้แก่บุคลากรต่างๆภายในหรือภายนอกสถานศึกษาด้วย ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้เป็นหน่วยงานกลางมีหน้าที่บริการสื่อการเรียนการสอนแก่ครูอาจารย์ นักเรียน การบริการนับได้ว่าเป็นหัวใจของงานในหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ซึ่งงานบริการนี้ส่วนใหญ่จะควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่นๆด้วย

ดังนั้น จึงกล่าวสรุปได้ว่าภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ได้แก่

                1. การเลือก จัดหา การลงทะเบียน ทำบัตรรายการ การบริการการใช้ ตลอดจนเก็บบำรุงรักษาวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ
                2. การผลิตสื่อการสอน เช่น ผลิตวัสดุกราฟิก การบันทึกเสียง ท ารายการวิทยุและโทรทัศน์
                3. จัดกิจกรรมทางวิชาการ เช่น การฝึกอบรมครูประจำการ การวิจัย การจัดนิทรรศการ ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
                4. การบริหาร เช่น การจัดบุคลากร การนิเทศ การบันทึกรายการ การติดต่อประสานงานและการทำงบประมาณ เป็นต้น
                5. การประเมินกิจกรรมต่างๆ
*********************************************************
2. ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จะประกอบด้วยบุคคลด้านใดบ้าง

1. ด้านบริหาร เพื่อให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยต้องมีฝ่ายรับผิดชอบ ดังนี้
  • หัวหน้าหน่วยงาน  ซึ่งอาจเรียกได้ว่าหัวหน้าศูนย์หรือผู้อำนวยการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
  • หัวหน้างานหรือหัวหน้าฝ่าย จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบงานในแต่ละฝ่าย
  • เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุม การจัดการงานต่างๆ เช่น งานธุรการ งานบุคคล งานพัสดุ งานจัดระบบงาน
  •  พนักงานธุรการ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านต่างๆ เช่น  งานธุรการหรืองานสารบรรณงานดำเนินการจัดซื้อพัสดุ  งานครุภัณฑ์ งานจัดทำทะเบียนและเบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ของสำนักงาน
  • เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงในคอมพิวเตอร์หรือพิมพ์เอกสาร หนังสือโต้ตอบ หนังสือคำสั่ง

 2. ด้านการบริการ มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการสำรวจและจัดหา จัดเก็บแยกหมวดหมู่ และจัดทำทะเบียนบัญชีสื่อรวมทั้งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงสื่อ โดยมีฝ่ายที่รับผิดชอบ ดังนี้
  • บรรณารักษ์ โดยจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา การให้เลขหมู่ ทำบัตรรายการ เก็บรวบรวมสถิติ ให้คำปรึกษาและบริการในการค้นหาสื่อต่างๆ
  • นักวิชาการคอมพิวเตอร์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการติดตั้งการใช้คอมพิวเตอร์ ดูและระบบคอมพิวเตอร์และปฏิบัติงานหน้าที่อื่นๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
  • นายช่างอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรักษา ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปฏิบัติการเกี่ยวกับเสียง ช่างตัดต่อ ช่างกล้อง จัดซื้อจัดหา ทำบัญชีวัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น

3. ด้านการผลิตสื่อ บุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้
  •  นักวิชาการโสตทัศนศึกษา มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนการสอนในระดับต่างๆ การออกแบบประเมินและวิจัยสื่อ
  •  นักวิชาการช่างศิลป์ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการออกแบบภาพประเภทต่างๆ ตัวอักษรประกอบคำบรรยายออกแบบแผ่นป้าย แผนภาพประชาสัมพันธ์ ท ารูปปั้นจำลองสื่อวัสดุสามมิติและอื่นๆ นอกจากนั้นยังเป็น   ผู้กำหนดและประมาณการขั้นต้นในการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติทางด้านศิลปะหรือวัสดุที่ใช้ในการฝึกปฏิบัติกราฟิก
  • นายช่างภาพ มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการเตรียมจัดหา และเก็บรักษาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพและในห้องปฏิบัติการถ่ายภาพ ล้างอัดขยายภาพ จัดเก็บรักษาฟิล์ม

4. ด้านวิชาการ
  • นักวิชาการศึกษา มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการวิจัยและเป็นผู้ช่วยในการวิจัยสื่อต่างๆรวมถึงเป็นผู้ช่วยในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน
  • นักวิจัย มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการวิจัยและพัฒนาสื่อร่วมกับนักวิชาการโสตทัศนศึกษาและเป็นผู้ออกแบบในการวิจัยรวมถึงการวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัยสื่อ

5. ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน มีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการศึกษาเป็นสำคัญในการจัดหาสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเนื้อหาแต่ละวิชา

6. ด้านกิจกรรมอื่น เช่น มีบทบาทหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถาบันต่อชุมชนจัดนิทรรศการหรือจัดการแสดงความก้าวหน้าต่างๆ
*********************************************************
3. ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภทที่สำคัญได้กี่ประเภท

ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. บุคลากรทางวิชาชีพ (Professional Staff) ได้แก่ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือโสตทัศนศึกษาระดับปริญญา ซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ (Media Specialists) หรือบางที่อาจเรียกว่านักวิชาการการโสตทัศนศึกษา บุคลากรกลุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้บริหาร อำนวยการประสานเกี่ยวกับสื่อ และอำนวยการให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บุคลากรทางวิชาชีพสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น
  • บุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุตีพิมพ์และไม่ตีพิมพ์ ( Printed and Non-Printed Specialization)
  •  บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านสิ่งพิมพ์และโสตทัศนูปกรณ์ ( Printed and Audiovisual Aids  )
  •  บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเฉพาะหน้าที่ (Functional Specialization)
  •  บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา (Subject Specialization)
  • บุคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่องสื่อเฉพาะระดับชั้น (Level Specialization )
  • บุคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่องสื่อเฉพาะหน่วยงาน (Unit-Type Specialization)

2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ (Paraprofessional Staff) คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ ได้แก่
  • พนักงานเทคนิค ( Media Techician)
  •  พนักงานด้านกราฟิกหรือช่างศิลป์
  • พนักงานด้านภาพนิ่ง หรือช่างภาพ
  • พนักงานช่างเทคนิค
  • พนักงานด้านวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง

3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ (Non-professional Staff) ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน
*********************************************************
4. ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร จงอธิบาย
ในการจัดหาสื่อมาไว้บริการภายในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว มีระบบ ระเบียบ สามารถแบ่งออกเป็นขันตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น เป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา ได้แก่
                  1. การสำรวจสื่อวัสดุ (Materials)การสำรวจสื่อวัสดุมีรายการที่ต้องการทราบ คือ
    • ชนิดของวัสดุ
    • ชื่อเรื่อง
    • แหล่งที่เก็บ (Location)
    • แหล่งที่ได้มา
    • สภาพการใช้งานปัจจุบัน
                  2. การสำรวจเครื่องมือ (Equipments)
    • ชนิดของเครื่องมือ
    •  แบบ/รุ่น
    •  แหล่งที่เก็บ
    •  แหล่งที่ได้มา
    •  จำนวน
    •  สภาพการใช้งานปัจจุบัน

ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างในการทำกิจกรรม เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอแล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง

ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นก่อนการจัดหาหรือจัดซื้อสื่อมาไว้บริการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจและศึกษาความต้องการของผู้ใช้ก่อนเสมอ การสำรวจความต้องการใช้สื่อในการเรียนการสอนสามารถทำได้หลายลักษณะ ได้แก่
1. การสัมภาษณ์ ซักถามเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มย่อย
2. การสังเกต เป็นวิธีหนึ่งที่ผู้ต้องการข้อมูลสามารถนำมาใช้เพื่อเก็บข้อมูลโดยดูจากพฤติกรรมการใช้สื่อที่มีมาแต่เดิม
3. การใช้แบบสอบถาม เป็นการสำรวจที่ได้รายละเอียดมากกว่าแบบอื่นๆ

ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นการจัดหา โดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆ หรือโครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไป ในการจัดซื้อผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญของผู้ใช้โดยจัดซื้อเฉพาะสื่อที่มีคุณภาพ ประหยัดงบประมาณ ก่อนจัดซื้อสื่ออะไรมาไว้บริการจะต้องมีการประเมินค่าสื่อนั้น โดยคณะกรรมการประเมินค่าสื่อเพื่อพิจารณาว่าสื่อหรือวัสดุอุปกรณ์มีคุณค่าต่อการเรียนการสอนมากน้อยเพียงไร มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรเพื่อให้การจัดซื้อจัดหาสื่อมาไว้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
*********************************************************
5. อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ ท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญอะไรบ้าง

สื่อประเภทโสตทัศนูปกรณ์จะมีราคาแพงต้องใช้งบประมาณสูงในการจัดซื้อ จัดหา ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อมาไว้บริการจึงควรพิจารณาคุณสมบัติและการใช้งานให้ละเอียดถี่ถ้วนโดยพิจาณายึดเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
1. ความคงทน (Ruggedness ) โดยพิจารณาถึงวัสดุที่ประกอบเป็นตัวเครื่องให้ความคงทน แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
2. ความสะดวกในการใช้งาน (Ease of Operation) โดยพิจารณาถึงการควบคุม การบังคับ กลไกไม่ซับซ้อนจนเกินไปหรือมีปุ่มต่างๆมากมายเกินไป
3. ความกะทัดรัด (Portability) โดยพิจารณาถึงขนาดของตัวเครื่อง น้ำหนัก ความสะดวก ในการเก็บ และเคลื่อนย้าย
4. คุณภาพของเครื่อง (Quality of Peration) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานที่ประกอบรวมกันเป็นไปตามคุณสมบัติต้องการใช้งานเพียงใด
5. การออกแบบ (Design) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ว่าสวยงามมีความทันสมัยการ  ติดตั้งอุปกรณ์ประกอบออกแบบให้ใช้ได้ง่าย
6. ความปลอดภัย (Safety) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ง่ายขณะใช้งาน
7. ความสะดวกในการบำรุงรักษาละซ่อมแซม ( Ease of Maitenance and Repair) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนประกอบใดที่ยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือมีความยากลำบากในการดูแลรักษาหรือมีส่วนประกอบที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเมื่อชำรุดแล้วไม่สามารถซ่อมแซม
8. ราคา (Cost) การจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์มาใช้หรือเพื่อบริการควรคำนึงถึงราคาซึ่งไม่ แพงเกินไปที่ สำคัญพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้วจึงนำไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมกับราคาและคุณภาพ ของเครื่องมืออุปกรณ์นั้น
9. ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิต ( Reputation of Manufacturer) การพิจารณาบริษัทผู้ผลิตเพื่อจะทราบว่า        วัสดุอุปกรณ์ที่ซื้อนั้นมีจำนวนและรุ่นที่ผลิตออกมามากน้อยพียงใด หากเป็นบริษัทที่มั่นคง มีชื่อเสียง  จะเห็นได้ว่ามีระบบการผลิต ระบบการจัดการอื่นๆ ที่ได้ มาตรฐาน ทำให้วัสดุอุปกรณ์มีคุณภาพและ    น่าเชื่อถือ
 10. การบริการซ่อมแซม (Available Service) อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ควรเป็นแบบที่สามารถ ซ่อมแซม   ได้ง่าย รวดเร็วและมีบริการดูแลบำรุงรักษาที่เอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอและมีอะไหล่สำรองไว้เพียงพอหรือเมื่อมีปัญหาทางบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้รวดเร็ว
*********************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น